ตราด-เกาะกูด ไปคนเดียวก็เที่ยวได้ (รีวิวการท่องเที่ยวคนเดียว แบบคนงบน้อย)
"ไปเที่ยวคนเดียว" หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคย กับการท่องเที่ยวเพียงลำพังคนเดียว แต่อีกหลายๆคน เชื่อว่าน่าจะเคยไปเที่ยวคนเดียวมาแล้ว
การท่องเที่ยวให้สนุก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ จำนวนคน บางคนไปเป็นกลุ่ม ยังหาความสนุกไม่ได้ก็มีค่ะ เพราะต้องผ่านการตัดสินใจ จากกลุ่ม จากหลายคน อาจทำให้เราไม่ได้ทำหรือ ไม่ได้ไปในที่ที่อยากจะไปจริงๆ
วันนี้ เรามารีวิว การท่องเที่ยวคนเดียว แบบ Slow life กันดีว่าเผื่อ ใครสนใจจะไปแบบนี้บ้างก็ไม่ขัดจ้า..
ทริปนี้ เราไปท่องเที่ยวที่ เกาะกูด จ.ตราด ระหว่างวันที่ 28 เมษายน 2560 - 1 พฤษภาคม 2560
เกาะกูด เป็นเกาะสุดท้าย สุดน่านน้ำตะวันออกของไทย และยังคงความเป็นธรรมชาติ มากๆ อีกด้วย
เกาะกูดเป็นเกาะที่ใหญ่ รองจากเกาะช้าง น้ำทะเลใส เป็นสีฟ้า บางหาดก็เป็นสีเขียว แต่สวยไม่แพ้กัน
Day 1 (28 เมษายน 2560 ในเมืองตราด)
เราออกจาก กรุงเทพ โดยรถโดยสารของ บ.เชิดชัย ทัวร์ เส้นทาง กรุงเทพ-ตราด ใช้เวลาเดินทาง 5-6 ชม. แต่วันที่ไปนั้น มีฝนตก ตลอดทางเลยค่ะ เลยใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 7 ชม. นับว่านานทีเดียวเลยค่ะ
ออกจากกรุงเทพ รอบ 9.30 น ถึงตราด16.00 น. กว่าๆ ค่ะ 😄
ด้านล่างคือ ภาพบรรยากาศ บนรถ ค่ะ
และแล้ว ก็มาถึง ตราด ลงที่ท่ารถ บขส.ตราด ค่ะ ท่ารถ บขส.ที่นี่ ค่อนข้างเงียบเหงามากค่ะ จะคึกครื้น ก็ตอนมี ผู้โยสาร ลงรถ จากที่ต่างๆ เท่านั้น เอง (ปล. ไม่ได้ถ่ายภาพบรรยากาศ ท่ารถ ให้ดู เพราะ รู้สึกเหนื่อยมาก อยากไปห้องพัก เร็วๆ ค่ะ ที่นี่มีรถสองแถว รถรับจ้าง บริการ นะคะ ค่าโดยสารคนละ 50 บาท แต่เราไปคนเดียว และไม่มีคนขึ้นสักที เลยเหมาไปที่พักเองค่ะ 80 บาท หมดปัญหา อิอิ
นั่งรถแป๊ปนึง ก็ถึงที่พักแล้วค่ะ เราเลือกที่พัก เกสเฮ้า ราคาประหยัด แต่ดีงาม ชื่อว่า โยธิน เกลสเฮ้า
อยู่ในตัวเมือง ใกล้ บขส.ตราด เลยค่ะ ที่นี่ลำเลดีมาก ใกล้ตลาด ใกล้ 7-11 ใกล้ตู้ATM แถมมีร้านอาหารใกล้ที่พัก ซึ่งเป็นเกสเฮ้า เหมือนกัน ค่ะ และในซอยนั้นเอง ก็มีร้านอาหาร และเกสเฮ้าหลายที่เลย
ภาพล่างคือ ห้องพัก ที่พักของเราในคืนแรก (ทำไมต้องพัก ในตราดก่อน มีเหตุผลจ้า เดี๋ยวบอก)
อ้อ ลืมบอกไป ค่ะ เรามาคนเดียว เราจึงเลือกห้องพักราคาถูก ราคารวมVAT 370 บาท จองผ่านอโกด้า ค่ะ ทั้งห้องนอน และห้องน้ำ สะอาดมากๆๆๆ (แอบเห็น รีวิว ในอโกด้า ว่าที่นี่ เด็ดมาก 9.0 คะแนนเลยนะ)
ห้องน่านอนมาก ห้องชื่อ ห้องเกาะกูด (แหม๋ เหมือนรู้ว่าจะไปเลย ได้ห้องนี้)
เป็นห้องพัดลม เตียงใหญ่ นอนได้ 2 คน ค่ะ มีตู้เก็บของ ผ้าม่าน ทีวี กลอนล็อคจากด้านใน
ในห้องน้ำ มีสุขภัณฑ์ ครบนะคะ แต่ไม่มีเครื่องใช้ในห้องน้ำให้ เช่น สบู่ แชมพู
เป็นห้องน้ำเล็กๆ แต่น่ารัก นะ ใช้คนเดียว สบายมาก แถมสะอาดมากด้วย
ด้านล่าง คือ ภาพบรรยากาศ บริเวณที่พัก ค่ะ
ด้านหน้าเกสเฮ้า ค่ะ (ส่วนฝั่งตรงข้าม เป็น ร้านอาหาร ) ไม่อดแน่นอน จ้า
ซึ่งวันที่เราไป ฝนตกทั้งวัน ยันเช้าวันรุ่งขึ้น เลยค่ะ ตอนแรกคิดในใจ ว่า มาทะเลฝนตก อาจไม่สวย แอบเศร้านิดหน่อย แต่มาไกลขนาดนี้ ยังไงก็ไม่ถอยค่ะ สู้ๆ 👌👌👌
แล้ววันแรก ก็หมดไปกับการเดินทาง เราก็เข้าที่พัก กินข้าว แล้วก็นอน
ส่วนเหตุผล ว่าทำไม ไม่ตรงไปเกาะกูดเลย เพราะ ว่า เราจองเรือข้ามไปเกาะ ได้รอบ 12.30 น. เป็นเรือเฟอร์รี่ ของบริษัทเรือ Kohkood Princess ค่ะ และไม่ชอบเดินทางตอนกลางคืน หรือเช้าตรู่ ค่ะ เลยมาตอนสายๆ แทน เพราะบางคนมาเกาะนี้ จะอาศัยเดินทางกลางคืนโดยออกจาก กทม 23.30 น ถึงตราด ตี 4.30 ซึ่งถือว่าไว แต่เช้าตรู่ ที่ บขส.ตราด มันวังเวงจริงๆ นะคะ สาวๆสวยๆ มาคนเดียว อันตรายค่ะ
Day 2 ( 29 เมษายน 2560) เดินทางไปเกาะกูด
ในวันที่ 2 นี้ เราจะออกเดินทางไปยัง เกาะกูดค่ะ โดยเรานัดรถของบริษัทเรือ Princess มารับ เค้าแจ้งว่าจะมารับช่วง 10.45-11.00 น .ค่ะ มารับที่พักในเมืองเลย ดีงามค่ะ (ซึ่ง บริษัทเดินเรือ ที่ข้ามไปยังเกาะกูด แทบทุกเจ้า จะมีบริการรถ รับ-ส่ง จากตราด ไปเกาะกูด และ จากเกาะกูด ไปตราด ค่ะ (ฟรี) และเมื่อถึงบนเกาะกูด ก็ไม่ต้องกังวล ว่า จะไปรีสอร์ท ไม่ถูก เพราะเค้าก็มีรถรับ-ส่ง จากท่าเรือ ไปยังรีสอร์ท ต่างๆ ด้วย ฟรี อีกเช่นกัน สบายมั้ยล่ะค๊ะ อิอิ
ระหว่างรอ รถรับ-ส่ง มารับ ก็ไปเดินเล่นแถวนั้น ค่ะ ริมคลองบางพระ บรรยากาศดีนะคะ น้ำไม่เหม็นด้วย
อีกฝั่งเป็นเมือง อีกฝั่งคือ ป่าชายเลน เริ่ดมั้ยล่ะคะ กลางเมืองนะเนี่ย
ภาพบรรยากาศค่ะ
รถมาแล้วค่ะ นั่งมันส์ มาก เพราะ ขับเร็วมาก คริๆ ✌✌✌
นั่งรถแบบเร็วสปีดจากเมืองตราด เพื่อมาให้ทันเรือ ค่ะ เรือออก 12.30 น อาจเลท บ้างเล็กน้อย เพราะ เรือมีแค่1 เที่ยวต่อวันค่ะ สำหรับ เรือ Princess เรือนี้ ค่าโดยสารถูกที่สุดแล้ว ค่ะ 350 บาท/เที่ยว (หากจองไป-กลับ ลดเหลือ 600 บาท ค่ะ) แต่เราจองคนเดียว เค้าเลยไม่ลดให้ จ่ายเต็ม 700 บาท ค่ะ
หน้าตา ตั๋วเรือ ค่ะ มี 2 ใบ ม่วงขาไป เหลืองขากลับ ค่ะ
โดยรถ รับ-ส่ง ของเรือ จะมาส่งเราที่ จุดเช็คอิน ก่อน เพื่อรับตั๋วเรือ ค่ะ เค้าจะให้ตั๋วทั้งไปทั้งกลับเลย ดังนั้น ต้องเก็บรักษา ตั๋งเรือขากลับให้ดี ค่ะ ไม่งั้นต้องจ่ายตังค์ใหม่ นะคะ โดยที่ตั๋วจะระบุ เวลารับ ที่รีสอร์ท ตอนขากลับไว้ ดังนั้น ต้องตื่นมารอ กลับให้ทันเรือ นะคะ จะมีคนมารับถึงรีสอร์ท เลยค่ะ
ภาพบรรยากาศ ที่จุดเช็คอิน ของ เรือเกาะกูด Princess ค่ะ ที่นี่มีบริการจอดรถด้วยนะคะ สำหรับคนที่เอารถส่วนตัวมา ฝากจอดที่นี่ได้ ค่าจอดรถ 50บาท/คัน/คืน ค่ะ มีคนดูแลให้ 24 ชม.
นักท่องเที่ยว ทั้งไทย และต่างชาติ มารอขึ้นเรือ
จุดเช็คอิน ที่นี่เค้ามี ห้องน้ำ กาแฟ น้ำดื่ม ให้บริการด้วย มีหนังสือให้อ่านรอเวลา
นั่งรอสักพัก เค้าจะเรียกขึ้นรถ ที่จะไปยังท่าเรือ มาตามคิวค่ะ เรามาท้ายๆ เลยได้ไปท้ายๆ เลยค่ะ
นั่งรถมาแป๊ปเดียวก็ถึง ท่าเรือแหลมศอก ท่าเรือที่ไปยัง เกาะกูด ห่างจากจุดเช็คอิน ประมาณ1.2 กม.
มาถึง ก็ขึ้นเรือเลยค่ะ ที่ว่าง ตรงไหนว่าง ก็นั่งเลยค่ะ ไม่สามารถเลือกที่นั่งได้ นะคะ ใครมาก่อนได้ก่อน
บนเรือมีห้องน้ำ มีขายขนม ขายเครื่องดื่ม มีแอร์ มีทีวีให้ดู ด้วยค่ะ ค่อนข้างสบาย หรือใครอยากทนร้อน แต่เอาบรรยากาศ ชั้นบนสุด ไม่มีแอร์ แต่ชมวิวได้ ตลอดเส้นทาง ค่ะ (แอบขึ้นไปดูที่แล้ว แต่เต็มค่ะ)
เรือเดินทางอยู่ ประมาณ 1.45 ชม. ก็มาถึง ท่าเรืออ่าวสลัด ท่าเรือน้ำลึกของเกาะกูดจ้า
(เดินหันหลังไปแล้ว ย้อนกลับมาถ่าย เกือบลืมแหน่ะ เรือขาวๆ นั่น เรือPrincess ค่ะ)
หลังจากลงเรือมา นะคะ ก็มีคนยืนรอรับ นทท. เพื่อขึ้นรถไปรีสอร์ท บรรยากาศชุลมุล วุ่ยวายสักเดี๋ยวค่ะ
หรือใครมาโดยเรือ สปีดโบ๊ท ก็คงไม่เห็นบรรยากาศ แบบนี้ค่ะ เพราะ เค้าไปส่งหน้ารีสอร์ทเลย
ส่วนใครมาแบบเรา ลงเรือมาแล้ว แจ้งคนที่ยืนรอเลยค่ะ ว่า ไปรีสอร์ทไหน เค้าจะชี้บอกรถ คันที่ไปส่งค่ะ
บรรยากาศบริเวณ ท่าเรืออ่าวสลัด เกาะกูด
บรรยากาศบริเวณ ท่าเรืออ่าวสลัด เกาะกูด
นั่งรถมาสักพัก ต้องใช้คำว่าพักใหญ่ๆ เลยค่ะ เพราะเส้นทาง จากท่าเรือน้ำลึกไปยัง รีสอร์ทต่างๆ ค่อนข้างไกลจากกันมาก ค่ะ และเส้นทางลาดชันเยอะมาก แต่แอบเห็น ธ.ออมสิน ด้วย สรุปที่นี่มีATM นะคะ
กดเงินสดได้ แต่เอาให้แน่ กดมาจาก ในเมืองตราด ดีกว่าค่ะ กันพลาด หากคนมากดเยอะเงินอาจไม่พอ
มีธนาคารแรก และธนาคารเดียว บนเกาะกูด นะคะ เป็น ธนาคารเล็กๆ
นั่งรถมาพักใหญ่ๆ หลังจากรถจอดส่งคน ที่รีสอร์ทต่างๆ จนมาถึง รีสอร์ท ที่เราพัก เค้าจะแจ้งเราค่ะ
เราพักที่ สยามฮัท รีสอร์ท ค่ะ ตั้งอยู่บนหาดบางเบ้า ติด สยามบีช รีสอร์ท(ขวา) ติดSend and sea(ซ้าย)
สยามฮัท นี้เป็นห้องพักสายชิล Beach front แบบเปิดประตู เดินลงทะเล ได้เลย แบบนี้สิ ที่ต้องการ 5555 เป็นห้องพัดลมค่ะ ไม่มีทีวี แต่ไม่ใช่ประเด็นค่ะ ประเด็นคือ วิวสวยมว๊ากกกก และดีกว่าที่คิดไว้
หน้าห้องพักค่ะ สยามฮัท รีสอร์ท บนชายหาดบางเบ้า
ใกล้ทะเล แบบนี้ ราคา1000 หน่อยๆ/คืน เท่านั้น (รวม VATแล้ว) มีอาหารเช้าและน้ำดื่มด้วยนะ
ถ้าเทียบกับ ห้องติดหาด ของที่อื่น บอกเลยว่า แพงกว่าที่นี่ 3-5 เท่าเลยค่ะ บางที่ก็ไม่ซีวิว จริงๆนะ
หน้าห้องเรา จ้า H 1
เราได้พัก ห้องแรก เลยจ้า ห้อง H 1 ใกล้ร้านอาหารสุดๆ ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้ห้องหน้าหาด เลยค่ะ
เพราะที่นี่มี ห้องแถวหลังจาก Beach front แถวหน้าด้วย แต่เห็นวิวทะเลเหมือนกัน แต่ไกลจากทะเลกว่า
รูปจากประตู เห็นทะเลตรงหน้า นอนดูได้ทั้งวันเลยค่ะ
ด้านล่าง ภาพภายในห้องพักค่ะ เป็นแบบเรียบๆ แต่ก็โอเค นะคะ สำหรับห้อง Beach front ราคาประหยัด
ด้านล่างนี่คือ ภาพห้องน้ำ ค่ะ ห้องน้ำแบบปิด นะคะ ไม่มีตุ๊กแก ด้วย มีน้ำอุ่น อ่าง โถ สบู่ แชมพู ครบค่ะ
เห็นพื้นตอนแรก คิดว่า สกปรก แต่จริงๆแล้ว มันคือ ลายกระเบื้อง ลายไม้ ค่ะ แอบมึนๆ นิดนึง
😊ดูห้องกันไปแล้ว มาดูบรรยากาศรอบๆ ดีกว่าค่ะ ตอนนี้ชักเริ่มหิว😋 เลยไปหาอะไรทาน ที่นี่มีร้านอาหารภายในรีสอร์ทด้วย นะคะ มีเมนูให้เลือก ทานได้ทั้งวัน ค่ะ เว้นช่วงเบรคพนักงานคือ 16.00-17.00น
และหลัง สามทุ่ม 21.00 น. งดบริการ ร้านอาหาร จนถึง 7 โมงเช้า ค่ะ (พนักงาน เลิกงาน)
ข้าวผัดปลาหมึก (อาหารจานเดียว ราคาเริ่มต้นที่ 60-80บาท ก็พอได้นะ เพราะค่าขนส่งวัตถุดิบ
วิวจาก ร้านอาหาร นั่งทานคนเดียว จริงๆ ณ ตอนนั้น 555
ที่นี่มีบาร์ ด้วยนะคะ อยู่ชั้นบน เปิดโล่ง ไม่มีหลังคา ค่ะ
เหมาะกับคนมานั่งดริ๊งกัน และ ดูดาวไปด้วย โรแมนติก จ้า
หลังจากทานข้าวเสร็จก็ไปเดินย่อย ชมบรรยากาศ ยามเย็น ที่หน้าหาดบางเบ้า ค่ะ บรรยากาศที่นี่เงียบสงบมากค่ะ ทั้งที่ มีคนมาพักเต็มทุกห้อง นะคะ แต่ก็เงียบดี เหมาะแก่คนมาพัก ชิลๆ เรื่อยๆ ตากอากาศ
รูปบ้านๆ กับร่างอวบๆ 5555
น้ำทะเล ช่วงเย็น สีออกเขียว เพราะแดดกำลังจะหมด แต่ใสมากกกก จ้า
ถ่ายรูปตัวเอง ด้วยไม้เซลฟี่ เกร๋ๆ อิอิ 😈
(ภาพบน) บนสะพานไม้ ของ สยามบีช รีสอร์ท
มีจุดที่เป็นหินด้วย มีมุมถ่ายรูปได้อีก (แดด 5 โมงเย็นหรอเนี่ย)
มุมชิงช้า หน้าสยามบีชรีสอร์ท (มีอันเดียว ต้องแบ่งกันเล่น นะคะ)
และแล้วก็ หมดวัน ไปอีกวันนึง ค่ะ จากที่เดินเล่นชมวิว มา ทะเล และหาดที่นี่สะอาดมาก ทรายเป็นสีขาวเลยค่ะ ไม่มีขยะด้วย ด้านหาดบางเบ้านี้ จะตั้งอยู่ทิศตะวันตก ค่ะ ดังนั้น จะเป็นหาดที่ เห็นตะวันตกดิน สวยงามมาก อีกแห่งนึง บนเกาะเลยล่ะ ฟินอ่าาา
นั่งดูพระอาทิตย์ตกทะเล หน้าห้องพักก็ ฟินดีฮ่าา
หรือจะเดินไปดู ตรงชายหาดก็ดี (กำลังจะตกแล้ว) สวยมาก มีคนพายเรือมา เข้าเฟรมพอดี สวยดีค่ะ
ตะวันตกแล้ววว ผ่านไปอีก 1 วัน แบบ Slow Life
Day 3 (30 เมษายน 2560 บนเกาะกูด )
วันนี้ เราจะทำกิจกรรม หลายสิ่งค่ะ ใช้เวลาตักตวงความสุข บนเกาะแห่งนี้ค่ะ เริ่มจากไปรับประทานอาหารเช้า ก่อนค่ะ ที่ สยามฮัท นี้ เค้ามีอาหารเช้าไว้บริการด้วย นะคะ (ฟรีอาหารเช้า) แบบ ABF
อาหารเช้าที่นี่ เริ่มเวลา 7.00 น - 10.00 น. (ถ้ามาสายจากนี้ ไม่ฟรีแล้วค่ะ)
หลังจากทานอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อย เราก็ได้เวลาเดินสำรวจหาด ในยามเช้า แล้วค่ะว่าจะสวยแค่ไหน
ด้านหน้าที่พัก ในยามเช้า เวลาประมาน 7.30 น
เดินลงน้ำ มาหน่อยนึง ก็เจอ ปูทะเล เลย ระบบนิเวศดีมากๆ
น้ำทะเล ลดลงไปเยอะเลยค่ะ
ที่นี่ธรรมชาติมาก มีผักเกิดเอง ไม่เด็ดทิ้งด้วย ได้บรรยากาศ
สะพาน สยามบีช อีกเช่นเคย
หลังคาแดงๆ ลิบๆนั้น คือที่พักเราค่ะ สยามฮัท รีสอร์ท
รองเท้า อันนี้ มีไว้ทำไมก็ไม่รู้ เหมือนกันค่ะ 555
อากาศดีมากกก จ้าาา
ข้างๆ สยามฮัท รีสอร์ท นี้ ติดกับป่าชายเลนค่ะ ซึ่งก็อยู่ติด Send and sea รีสอร์ท ด้วย เป็นป่าชายเลน มีคลองเล็กๆ ที่ไหลออกสู่ทะเล มีคนสัญจรโดยเรือเล็ก อยู่ เรื่อยๆ เลยค่ะ วิวดีมาก เห็นแล้วฟิน คร้าา
ตรงจุดนี้ มีปลาเยอะมากเลยค่ะ น้ำใสแจ๋วเลย
มีปลาตัวสีเหลือง ไม่รู้ปลาอะไร เห็นมีเยอะมาก ในทะเลนี้
รอยเท้า ของผู้เดินทางคนเดียว
เดินสำรวจฝั่งซ้ายแล้ว ก็ย้ายไปขวาบ้าง ด้านขวานี่ มีรีสอร์ทสวยๆ อีก 2 รีสอร์ท ค่ะ คือ To the Sea รีสอร์ท และ เกาะกูด รีสอร์ท ราคาห้องพัก ก็อยู่ที่ ประมาณ 2000+ ถึง 3000+โดยประมาณ ค่ะ
โดยทางเดิน เราจะเดินเลาะไปตาม หินได้ ก็ต่อเมื่อ น้ำลด ในตอนเช้า นี่แหล่ะค่ะ
เส้นทางการเดินไปรีสอร์ท ข้างๆ
แอบแบ๊ววว นิสนึง
ภาพบนนี่คือ To the Sea รีสอร์ท ค่ะ
น้ำใส มาก น่าลงไปเล่นจัง
บริเวณแนวหิน หน้าสยามบีท ที่ติดกับ To the Sea รีสอร์ท จะมีปลาอาศัย อยู่ เดินดูได้เพลินๆ เลยค่ะ
เดินลุยในน้ำได้ นะคะ แต่ต้องระวัง เหยียบ น้องเม่นทะเล เข้านะคะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน คริๆ
ซึ่งเม่นทะเล จะอยู่ตาม โขดหิน ค่ะ
ตอนแรก ก็ไม่มีคนเดินออกมาเท่าไหร่ พอเรามาเดินบนหิน เท่านั้นแหล่ะ คนมาเต็มเลย 555
ภาพบรรยากาศ ด้านหน้า รีสอร์ท ข้างๆ สวยเลยล่ะ
สะพาน To the Sea รีสอร์ท
น้ำใสมว๊ากกกก
มีปลาตัวใหญ่ด้วย มาเป็นครอบครัวเลย
เดินจนเหงื่อออก รู้สึกอยากคลายร้อนแล้วค่ะ เลยเปลี่ยนชุดว่ายน้ำ แล้วออกไปเล่นน้ำ ดำน้ำดูปลา
ทริปนี้เราไม่ได้ จองดำน้ำกับShop ดำน้ำไว้ ค่ะ เพราะ ไม่ได้อยู่ในแผน ตั้งงบไว้แบบประหยัดค่ะ เพราะมาคนเดียว แต่ก็เสียดาย แต่เอาไว้คราวหน้า ค่ะ เกาะกูด ไม่มาครั้งเดียวแน่นอน ค่ะ
เตรียมตัวไปเล่นน้ำหน้าหาด ดีกว่า
ปลาหน้าหาด สยามฮัท และ สยามบีช ก็มีเยอะนะคะ เราสามารถ ดำน้ำชมชีวิต ใต้ทะเลได้เลย และถัดออกไปอีกหน่อย คือแนวปะการังขนาดย่อมๆ ให้เราสามารถดูกันได้ หน้าหาดเลยค่ะ เห็นฝรั่งเค้าว่ายน้ำไปดูกัน ค่ะ แต่เราว่ายน้ำไม่เป็น เลยลอยคอ ดูแถวๆ รีสอร์ท ค่ะ (ใส่ชูชีพ ทุกครั้งนะคะ)
หลังจากเล่นน้ำ เปลี่ยนสีผิว ไปบ้างแล้ว ก็ขึ้นค่ะ เพราะทนแดด ตอน 10 โมงเช้า ไม่ไหว แรงมากจริงๆ
และก็นอนพักผ่อน หย่อนใจ หน้าที่พักค่ะ ที่นี่เค้าอนุญาติ ให้เอาเตียงผ้าใบ ไปนอนเล่นริมทะเลได้ แต่ต้องลากกลับมาเก็บ ด้วยนะคะ เราเลยจัดเลยค่ะ นอนพักก่อน เด๋วตอนเย็นไปเล่นน้ำใหม่ 555
นอนใต้ต้นมะพร้าว วิวดี จริงๆ
นอนกินลม ชมทะเล
นั่งๆอยู่ ก็เจอสัตว์ตัวน้อยๆ ฟินอ่ะ
ปู ก็มีนะจ้า ใช้ซูม 60X เห็นชัดทุกมุมมอง (โดยที่ปู ไม่รู้ตัว)
นั่งดูนก ไซร้ขน ริมหาด นี่ก็ ซูม 60 X
หลังจากนอนรอแสงแดดอ่อนกำลังลง ก็ได้ เวลาเล่นน้ำอีกครั้งนึง ค่ะ ตอนนี้ เริ่มมีผู้คน ออกมาเล่นมากแล้ว ตอนแรกเหมือนเล่นอยู่คนเดียว ทั้งหาด (ไม่รู้คนไปไหนหมด 5555)
เบาๆ รอบเย็น กับชุดเดิม 555
(ภาพบน) มุมจากทะเล หน้าที่พัก สยามฮัท รีสอร์ท ของเรา
ใช้ซองกันน้ำ ถ่ายภาพได้ แต่ตอนลงน้ำ ดันกดชัตเตอร์ ไม่ค่อยได้ สงสัยต้องซื้อ แอคชั่นแคม กันน้ำ 555
แต่ก็ได้ ภาพใต้น้ำ มาภาพนึง ยืนยันความใสสะอาดของทะเลที่นี่ 555 (ใส่เหมือนสระน้ำ)
และแล้ว ก็หมดไปอีกวันนึง ที่เกาะกูด แห่งนี้ พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับแล้ว หรอเนี่ย (คิดในใจ)
ลาวันที่3 ไปด้วย ภาพบรรยากาศ กลางคืนที่ สยามฮัท รีสอร์ท ค่ะ
บรรยากาศ หน้าร้านอาหารของรีสอร์ท ค่ะ เค้าเปิดไฟแบบนี้ ทั้งคืน ค่ะ
บรรยากาศหน้าที่พัก เงียบสงบดีค่ะ
(ภาพบน) มุมจากหน้าห้องพัก นั่งเล่นเพลินๆ ได้สบายค่ะ
แอบไปดูปู ปลา ตอนกลางคืน ก็ดี นะคะ
Day 4 ( 1 พฤษภาคม 2560 วันเดินทางกลับ กรุงเทพฯ)
เช่าวันที่ 4 นี้ ตื่นมาอากาศดีอีกเช่นเดิม เดินออกไปสูดอากาศ ก่อนรับอาหารเช้า และรอรถ เพื่อไปขึ้นเรือกลับฝั่ง เพื่อที่จะกลับกรุงเทพฯ บริการของเรือPrincess นี่ดีมากค่ะ มีคนมารอรับเราไปขึ้นรถ เพื่อไปท่าเรือ เค้าทำงานเป็นระบบจริงๆค่ะ โดยมารอรับเรา ถึงรีสอร์ท เลย ค่ะ ตอนแรก คิดว่าจะให้เดินไปรอที่จุดนัด เอง ซะอีก
เพื่อนใหม่ สี่ขา
ดูนางมีความสุข กับชีวิต บนเกาะมาก น่าอิจฉา 555
เราชอบเนินทราย ตรงนี้มากเลย ดูสดชื่นยังไงไม่รู้
นี่มันคือ อะไรไม่รู้ แต่เหมือนหอยที่มารวมตัวกัน เยอะๆ แล้วโดนคนแคะไปกินแล้ว แป่วว
หวังว่ารีวิวจากบล็อกนี้ จะมีประโยชน์ สำหรับใคร ที่อยากปลีกวิเวก ไปเที่ยวคนเดียว แบบเรา นะคะ และการเที่ยวคนเดียว เป็นการทลายกำแพงแห่งความกลัว ที่มีอยู่ในใจของเราได้
ตอนแรกๆ เราก็กลัวการเที่ยวคนเดียวค่ะ แต่หากเราหาข้อมูล แน่นๆแล้ว ล่ะก็ จะรออะไรอยู่ ล่า
แค่เซฟเงิน และ เซฟชีวิตตนเองให้ดี ยามเมื่อเที่ยวคนเดียว
สรุปค่าใช้จ่าย ทริปนี้ ดังนี้
-ค่าห้องพัก ที่ตราด 1 คืน = 370 บาท
-ค่าอาหาร ที่ตราด 2 มื้อ (เย็น 28 เช้า29) = 100
-ค่าห้องพักที่เกาะกูด (3วัน2คืน)= 2232
-ค่ารถ ไปกลับ กรุงเทพ-ตราด = 460 (230/เที่ยว เชิดชัย ทัวร์)
-ค่าเรือ ไป-กลับ แหลมศอก-เกาะกูด = 700 (เรือ KohKood Princess 350/เที่ยว)
-ค่าอาหาร บนเกาะกูด (4มื้อที่ไม่ฟรี) 350 บาท
ส่วนขนม นมเนย แพ็คไปเอง จากกรุงเทพ น้ำดื่มฟรี รีสอร์ทมีให้
คิดดูถ้าไป 2 คน จะเหลือเท่าไหร่ แต่ดันไม่มีเพื่อนไปด้วย แอบเซร็งค่ะ
👋จบการรีวิว ด้วยภาพนี้ ค่ะ บ๊าย บาย👋
เขียนโดย : Suzy
วันที่ 7 พฤษภาคม 2560
เวลา 20: 21 น.





















































































เพิ่งเขามาอ่าน ดูมาหลายข้อมูลในหลายๆเว็บแล้ว ไม่ค่อยได้ข้อมูลที่ดีเท่าไร มาเจอของคุณ Suzy นี่ ได้ข้อมูลมากเลยครับ กะว่าจะไปเหมือนกันคนเดียว รองานน้อยๆลงก่อน ขอบคุณมากๆเลยครับ...
ตอบลบ